นักวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ห่วงชายไทยทานหนอนไหม เพื่อปลุกเซ็กส์ ถึงแม้จะพบการรายงานว่า หนอนไหมไทย 2 สายพันธุ์ คือ เหลืองสุรินทร์ และนางน้อยศรีสะเกษ-1 ที่ให้สารเหมือนยาไวอากร้าได้ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นตอนการทดลองในสัตว์ ในอนาคตเร่งทำวิจัยต่อยอด พร้อมเตรียมศึกษานำมาแปรรูปเป็นอาหารเสริมแคปซูลบำรุงสุขภาพ
รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ขณะนี้ ผลงานวิจัยเรื่องผลของสารสกัดจากดักแด้ไหมไทยต่อการกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด เทียบเท่าไวอากร้า ว่ายังไม่มีผลการสรุปออกมาชัดเจนว่าหนอนไหมมีฤทธิ์สารเหมือนยาไวอากร้า เพียงแต่อยู่ในการศึกษาระดับทดลองเท่านั้น ถึงแม้ผลการทดลองจะพบว่า หนอนไหมมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เกิดไนตริกออกไซด์ ได้จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะมีสารจากธรรมชาติในตัวหนอนไหมมีฤทธิ์คล้ายกับ ซิลเดนาฟิล หรือไวอากร้า แต่ทางทีมวิจัย ยังไม่ทราบโดรงสร้างของหนอนไหมเป็นสารชนิดใด และนอกจากนี้ยังไม่มีการทดลองในสัตว์ที่มีชีวิต ในอนาคตต้องเร่งหาทุนวิจัยต่อไป ว่าสารสำคัญเหล่านี้มีโครงสร้างทางเคมีอย่างไร เพราะสิ่งที่ทีมวิจัยต้องการคือสมุนไพร 100 เปอร์เซ็นต์ จากสารธรรมชาติจะปลอดภัยกับผู้ทานมากที่สุด อย่างไรก็ดีควรที่จะรอให้มีการสกัดออกมาในรูปแบบแคปซูลอย่างชัดเจนจะดีกว่า หากมีการทดลองในสัตว์ แล้วเห็นผลได้ชัดเจนเทียบเท่ากับไวอากร้า อนาคตผลิตเป็นแคปซูลออกมาจำหน่ายอย่างแน่นอน
รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะต้องตอบปัญหาของสาธารณสุข และประชาชนได้ หน้าที่ของการเป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องอธิบายถึงกลไกในการออกฤทธิ์ของสารต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นสารที่ทานเป็นอาหาร สารที่ทานเป็นอาหารเสริม หรือสารที่เป็นยาสมุนไพร เพราะคนไทยส่วนมาก จะเป็นคนที่เชื่อง่าย หากไม่มีอาจารย์หรือนักวิจัยออกมาชี้แจงข้อมูลต่างๆอย่างแท้จริง ก็จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น