วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ฉันทำได้แค่เพียงเฉยเมย


เมื่อความเจริญเติบโตของเมืองเชียงใหม่ เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ทำให้ที่ดินนั้นพุ่งทะยานขึ้นสูง อย่างน่าตกใจ ด้วยการเข้ามาของคนต่างถิ่นที่มีอำนาจเงินเป็นต้นทุน ทำให้เมืองเชียงใหม่เกิดการลงทุนในหลายๆด้าน ทั้งการท่องเที่ยว และด้านที่พักอาศัย ประกอบกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ที่หลั่งไหล เดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ เติมโต ไปอย่างรวดเร็ว 
ด้านการต้องการของที่ดินนั้นยังมี ดีมาน สูงในสายตาชาวไทย ที่ต้องการจะย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากยังจังหวัดเชียงใหม่ บ่อยครั้งเราพบว่าการเข้ามาของวัฒนธรรมด้านอาหาร ทำให้เมืองเชียงใหม่ มีความหลากหลายทั้งอาหาร อีสาน อาหารภาคกลาง และ อาหารจากใต้ วัฒนธรรมด้านความนิยมด้านอาหารจากภาคอื่นนั้น สิ่งเหล่านี้สะท้อนการโยกย้ายถิ่นฐานของคนหลากหลายภาค มายังจังหวัดเชียงใหม่ทำให้มองว่าเมืองเชียงใหม่นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว 

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ราคาที่ดินนั้นพุ่งสูงขึ้นโดยในเมืองตารางวากว่า........ บาท และ ย่านแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง ถนน นิมมานเหมินทร์ ที่ดินตารางวาละ..... บาท ทำให้นักลงทุนหรือผู้ที่สนใจมองหาทำเลทอง เหนือสิ่งอื่นใดแล้วทำเลไม่ทองละ ทำเลไม่ทองก็มีราคาที่ดินสูงตามไปด้วย เนื่องด้วยเขตของเทศบาลที่อยู่ในพื้นที่ ทำให้ความแตกต่างของที่ดินติดถนน และ ในซอย มีราคาที่ใกล้เคียงกัน ไม่ต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเติบโตของเมืองที่ไปตามถนน เมื่อถนนวงแหวนของเมืองเชียงใหม่ สร้างเสร็จทำให้ที่ดินโดยรอบมีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ที่ดินในเมือง ละ ?? เมื่อสำรวจที่ดินที่อยู่ในเมือง มีหลายแหล่งที่ประกาศขายที่แต่ที่น่ากังวลคือการขายไม่ได้ของที่ดินเหล่านั้น เนื่องด้วยปัจจัยด้านการประเมินราคาที่สูงและ นักลงทุนสนใจในทำเลที่อยู่นอกเมืองมากกว่า ด้วยการคมนาคม ที่สะดวกสบายของเมืองเชียงใหม่ ทำให้การลงทุนซื้อที่ดินของนักลงทุนนั้น เลือกทำเลที่อยู่รอบนอกมากกว่าอยู่ในเมือง ในราคาที่เท่ากัน แต่ได้พื้นที่ที่มากกว่า ด้วยเหตุผลเหล่านั้นจึงทำให้ที่ดินในเมือง หลายแห่งถูกเมินเฉย จากนักลงทุน 

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

กินม่วนกับอ้วนบอย Ep.1 (ถาดเบ้อเร่อ)



กำลังกลายเป็นจุดนัดหมายสายกินที่พูดกันปากต่อปากทีเดียว สำหรับ “ร้านชาบูถาดเบ้อเร่อ” ย่านประตูสวนปรุง ถ.ช่างหล่อ ต.หายยา กลางเมืองเชียงใหม่ หลังพบว่านอกจากจะเสิร์ฟชาบูถาดขนาดใหญ่ตามชื่อร้านเก๋ไก๋แล้ว เจ้าของร้านยังเป็นสาวสวยหุ่นแซบยิ่งกว่าน้ำจิ้มอีก


กินม่วนกับอ้วนบอย Ep.8 (ต้า ซื่อ สี่ บะหมี่เบตง)

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คุยกับหมอ ดนัยย์ (Dr.Danai) หมอเสริมความงามคนเก่ง ต้องลองพูดคุยกับหมอแล้วจะรู้ว่าใช่








เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาผมได้รับเชิญจากทาง PR ชื่อดังเมืองเชียงใหม่ เข้าร่วมในงาน Open House (เปิดบ้าน) ต้อนรับสื่อมวลชน ด้วยบรรยากาศ เรียบง่าย เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนเลยจริงๆ กับกาแฟร้อน บรรยากาศดีๆ เพลงเบาๆ ที่จะได้นั่งคุยกัน กับการเปิด คลินิก เสริมความงามของ นายแพทย์ ดร.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ  หรือ Dr.Danai ที่ใครๆในแวดวงเสริมความงามเขารู้จักกันดี งานนี้เปิดคลินิกต้อนรับสื่อมวลชน และเหล่าบล็อกเกอร์ ด้วยความเป็นคลินิก ทุกคนจะนึกภาพถึงความตึงเครียดในบรรยากาศ แต่ DIAA Clinic แห่งนี้ บรรยากาศรู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เหมือนอยู่ในสปา ด้วยการตกแต่งคลินิก ที่มีงานดีไซน์สวยงามทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ผมไม่รู้ว่า หมอตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้หรือเปล่าวแต่เรารู้สึกได้ดี             เริ่มด้วยการทักทายและแนะนำตัวของคุณหมอ ดร.ดนัยย์ ที่เป็นกันเองพูดคุยกับสื่อมวลชน โดยมีหลายคนสงสัยมากว่าคุณหมอ ดร.ดนัยย์ อายุเท่าไหร่แล้วท่านก็ตอบอย่างไม่ลังเล บอกว่าอายุของผมนั้น เลขข้างหน้าคือเลข 5 แล้ว เดี๋ยว เดี๋ยว คุณหมอ ผมยังหน้าแก่กว่าคุณหมอ อีกนะเนี่ย คุณหมอเป็นกันเองมากจนผมต้องขอเรียกว่า พี่หมอ ละกันจากนั้น พี่หมอของเราก็พาทุกท่านเดินชมถึงจุดต่างๆในคลินิก และห้องรักษาที่ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว พร้อมกับ ทีมงาน หมอ และ ผู้ช่วย และพาชมและแนะนำกระบวนการต่างๆในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งน้อยนักที่เหล่าสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์จะได้รับรู้ถึงกระบวนการขั้นตอนในการทำงานของคลินิก เสริมความงาม ด้วยบางแห่งเป็นความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยกันได้ง่ายๆ แต่พี่หมอ เล่าให้เราฟังทุกกระบวนขั้นตอนเลยทีเดียว             นอกจากนั้นแล้วเรายังได้พูดคุยเพื่อทำความรู้จักกับพี่หมอมากขึ้น ด้วยเรื่องราวเส้นทางของการทำงานด้านเสริมความงาม พี่หมอ ยังได้พูดคุยในทุกเรื่องทั้งการดูแลสุขภาพและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆเพื่อสุขภาพที่ดี ทำให้การ เปิดคลินิกคุยในครั้งนี้สนุกสนานเต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย กับคำถามที่เหล่านักข่าว และบล็อกเกอร์ได้สอบถามไปยังพี่หมอ ซึ่งพี่หมอนั้นตอบทุกเรื่อง กว่า 1 ชั่วโมง ให้หายคลายสงสัยกันเลยทีเดียว จนเกิดคำถามว่า “ครั้งหน้าพี่หมอจัดอีกนะ ผมจะมา” (จริงๆแล้วปรึกษาหมอนั้นเขาคิดค่าปรึกษานะแต่นี่พี่หมอไม่ได้คิดอะไรเลยไม่พอ ถามได้ทุกเรื่องอีก) บอกตรงๆ ใครไม่ได้ไป เนี่ย ไสเจีย (เสียใจด้วยนะ) ผมยังย้ำเหมือนเดิม ว่าอยากคุยกับพี่หมออีกนะครับ 5555…
x



-->

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

สุดน่ารัก “น้องนกยูง” บุกคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่





เมื่อวันที่ 28 กุมพาพันธ์ ที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค Thanapha Srisuwan ได้โพสรูปน่ารักของนกยูง ที่อยู่บริเวณลานด้านหน้า คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีรูปที่นกยูงพยายามเดินขึ้นตึก เรียนของคณะสื่อสาร พร้อมบรรยาย  อาโหลลลมาทำอะไรกันจ๊าาา อยากเรียนแมสคอมก็บอก เดินขึ้นตึกชิวเลยยย ><“ หลังจากที่ได้โพสภาพนี้ออกไป ได้มีชาวโซเชียล ได้ให้ความสนใจเป็นจำนวน มาก พร้อมทั้งชื่นชมความน่ารักของนกยูง และ ร่วมแชร์ กว่า 1 พันแชร์ แล้ว

ด้าน คณบดี คณะสื่อสารมวลชน รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร วรรณฤมล ถึงเรื่องราวดังกล่าว คณบดีกล่าวว่า นกยูงพวกนี้มาจากสวนสัตว์ เชียงใหม่ ซึ่งมีรั้วใกล้กับคณะของเรา และ พวกเขามักจะมาเที่ยวเล่นอยู่เป็นประจำ ทางคณะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ดูแลนกยูงเป็นอย่างดี พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ทราบเพื่อนำกลับไปสู่สวนสัตว์


“ชาวเน็ตยกให้นกเป็นสัญลักษณ์ของคณะสื่อสาร” ด้านชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเม้นต์ ต่างชื่นชมและให้ทรรศนะถึงนก ที่เป็นตัวแทนของคณะสื่อสารมวลชน บ้างก็บอกว่า น้องนกยูง เขาเป็นเพื่อนกับพี่สิงโต ซึ่ง “พี่สิงโต” นั้นเป็นน้องหมาที่พี่น้องชาว มอชอ ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของคณะสื่อสารมวลชน โดยบอกว่ามาเยี่ยมพี่สิงโต บ้างก็นำสติกเกอร์ สุดฮิต “นกม่วงโยกหัว” มาโพสกันอย่างสนุกสนาน

ด้าน คุณ Thanapha Srisuwan เจ้าของรูปที่โพสนั้น บอกว่ารูปนี้ถ่ายได้ขณะที่เลิกเรียน กำลังลงลิฟต์ ของตึก พอเดินออกมาจากตัวตึก พบว่ามีนกยูง ที่มีลักษณะสวยงามกำลังเดินอยู่ที่ลานหน้าคณะ จึงได้หยิบกล้องจากมือถือถ่ายรูปไว้ ด้วยความน่ารัก และเป็นคนชื่นชอบนกอยู่แล้ว และ ได้เห็นนกพยายามจะเดินขึ้นตึกอีกด้วย จึงนำมาโพสและบรรยายว่าอยากจะเรียนคณะสื่อสารมวลชน ซึ่งเห็นแล้วก็อดอมยิ้มถึงความน่ารักของ น้องนกยูงไม่ได้ จึงนำมาโพสให้เพื่อนชม และไม่คิดว่าจะมีคนชื่นชอบและถูกแชร์กันเป็นอย่างมากเช่นนี้

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นักวิจัย มช. ห่วงชายไทย  แห่ทานหนอนไหม หวังปลุกเซ็กส์


นักวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ห่วงชายไทยทานหนอนไหม เพื่อปลุกเซ็กส์ ถึงแม้จะพบการรายงานว่า หนอนไหมไทย 2 สายพันธุ์ คือ เหลืองสุรินทร์  และนางน้อยศรีสะเกษ-1   ที่ให้สารเหมือนยาไวอากร้าได้ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นตอนการทดลองในสัตว์  ในอนาคตเร่งทำวิจัยต่อยอด พร้อมเตรียมศึกษานำมาแปรรูปเป็นอาหารเสริมแคปซูลบำรุงสุขภาพ

รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ  อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ขณะนี้  ผลงานวิจัยเรื่องผลของสารสกัดจากดักแด้ไหมไทยต่อการกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด เทียบเท่าไวอากร้า  ว่ายังไม่มีผลการสรุปออกมาชัดเจนว่าหนอนไหมมีฤทธิ์สารเหมือนยาไวอากร้า  เพียงแต่อยู่ในการศึกษาระดับทดลองเท่านั้น  ถึงแม้ผลการทดลองจะพบว่า หนอนไหมมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เกิดไนตริกออกไซด์ ได้จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า  จะมีสารจากธรรมชาติในตัวหนอนไหมมีฤทธิ์คล้ายกับ ซิลเดนาฟิล หรือไวอากร้า  แต่ทางทีมวิจัย ยังไม่ทราบโดรงสร้างของหนอนไหมเป็นสารชนิดใด และนอกจากนี้ยังไม่มีการทดลองในสัตว์ที่มีชีวิต ในอนาคตต้องเร่งหาทุนวิจัยต่อไป     ว่าสารสำคัญเหล่านี้มีโครงสร้างทางเคมีอย่างไร  เพราะสิ่งที่ทีมวิจัยต้องการคือสมุนไพร 100 เปอร์เซ็นต์ จากสารธรรมชาติจะปลอดภัยกับผู้ทานมากที่สุด  อย่างไรก็ดีควรที่จะรอให้มีการสกัดออกมาในรูปแบบแคปซูลอย่างชัดเจนจะดีกว่า หากมีการทดลองในสัตว์ แล้วเห็นผลได้ชัดเจนเทียบเท่ากับไวอากร้า อนาคตผลิตเป็นแคปซูลออกมาจำหน่ายอย่างแน่นอน



รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะต้องตอบปัญหาของสาธารณสุข และประชาชนได้  หน้าที่ของการเป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องอธิบายถึงกลไกในการออกฤทธิ์ของสารต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นสารที่ทานเป็นอาหาร  สารที่ทานเป็นอาหารเสริม หรือสารที่เป็นยาสมุนไพร  เพราะคนไทยส่วนมาก จะเป็นคนที่เชื่อง่าย หากไม่มีอาจารย์หรือนักวิจัยออกมาชี้แจงข้อมูลต่างๆอย่างแท้จริง ก็จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้.

คณะบริหาร ม.ช. เปิดตัว Smart Classroom ทันสมัยสุดในภาคเหนือ



คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยโฉม "Smart Classroom" ห้องเรียนสุดสมาร์ท แห่งแรกและแห่งเดียวที่ทันสมัยที่สุดในภาคเหนือ พลิกโฉมการเรียนรู้ของนักศึกษา สู่การเรียนการสอนรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้สู่ยุคดิจิตอล เรียนสมาร์ทยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำจากซัมซุง



รศ.ดร.สิริวุฒิ บูรณพิร คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  กล่าวว่า "คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความสนใจโซลูชั่นห้องเรียน Smart Classroom เพราะเห็นว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำในปัจจุบัน มีประโยชน์และน่าเป็นส่วนช่วยสำคัญ ในการส่งเสริมประสิทธิผล ของปฏิสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และนักศึกษา ทำให้นักศึกษาสามารถถ่ายทอดกระบวนการคิดแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างกัน ได้แบบ Realtime ทำให้เกิดพัฒนาการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น และทำให้นักศึกษาของเราสามารถออกไปทำงาน ได้ตรงกับความต้องการขององค์กรต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียน Smart Classroom จะช่วยยกระดับการศึกษาในคณะและเป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ จังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ล่าสุดทางคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำซัมซุง วิดีโอ วอล์ (Samsung VDO Wall) และ ซัมซุง อีบอร์ด (Samsung E-board) พร้อมกับ Learning Solutions อื่นๆ ทั้งในห้องที่สามารถจุคนได้เกินกว่า 200 คน จำนวน 2 ห้อง จะทำให้การเรียนการสอนในห้องขนาดใหญ่มีประสิทธิผลมากขึ้น และในห้องเรียนขนาดกลาง Auditorium ที่เน้นใช้เพื่อการเรียนการสอนแบบถกแถลง (Discussion) อีกทั้งนี้ ออกจากความทันสมัยของเทคโนโลยีที่สามารถดึงดูดความสนใจให้นักศึกษาที่เข้าเรียนแล้ว เทคโนโลยีในห้อง Smart Classroom ยังทำให้การบันทึกการบรรยายและบรรยากาศของการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนเป็นสื่อ Electronic สำหรับนำไปเชื่อมต่อกับระบบ eLearning ยังทำได้ง่ายมากขึ้น ทำให้เพิ่มขีดความสามารถของคณะในการจัดทำการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ได้หลากหลาย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความสนใจในการร่วมมือระยะยาวกับ Samsung เพื่อพัฒนานวัตกรรมการศึกษาต่อไปอีกในอนาคต"


นายมณฑล มังกรกาญจน์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัทไทยซัมซุง อิเล็กโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ซัมซุงถือเป็นผู้นำเทรนด์ในการนำ Smart Classroom มาใช้ในสถานศึกษา ในหลายๆ ประเทศก็เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย สำหรับในประเทศไทยถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยได้นำเสนอโซลูชัน เพื่อการศึกษาในยุคดิจิตอล ภายใต้ชื่อ ซัมซุง สมาร์ท  คลาสรูม (Samsung Smart Classroom) ซึ่งในเขตกรุงเทพฯ ได้มีการติดตั้ง ห้องเรียนอัจฉริยะต้นแบบเพื่อช่วยพัฒนาการศึกษาในหลายสถานศึกษาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัสพระราม 2 หลักสูตรภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น ซัมซุงเอง ก็มีการวางแผนว่าจะจับมือกับสถาบันต่างๆ หลายแห่ง ซึ่งคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นพันธมิตรสำคัญแห่งแรกในภาคเหนือ จะเป็นเสมือนต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยในจังหวัดใกล้เคียง"



"สำหรับห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom มีจุดเด่นอยู่ที่การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง เป็นการเรียนการสอนรูปแบบใหม่แบบอินเตอร์แอคทีฟ (interactive) ให้ผู้สอนและผู้เรียนจะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านผลิตภัณฑ์ซัมซุง อาทิ ซัมซุง วีดีโอวอลล์ (Samsung VDO Wall) ซัมซุง อีบอร์ด (Samsung E-board) ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส 2 (Samsung Galaxy Tab S2) ผนวกกับโซลูชั่นเฉพาะที่ออกแบบมาให้ผู้สอนและผู้เรียนสามารถโต้ตอบและเรียนรู้บทเรียนไปพร้อมพร้อมๆ กัน อาทิ นักเรียนสามารถแสดงผลงานและความคิดเห็นต่างๆ จากซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส 2 ไปยังหน้าจอ E-board หน้าห้องเรียน อาจารย์สามารถตรวจสอบการเรียนของนักเรียน ในระหว่างเรียนเพื่อแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจในบทเรียน รวมถึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการควบคุมความสนใจของนักเรียนในชั่วโมงเรียนได้เป็นอย่างดี"


"นอกเหนือจาก ความร่วมมือกับคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้ว ซัมซุงยังวางแผนที่จะขยายโซลูชั่น Smart Classroom สู้กลุ่มโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ ในภาคเหนือเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไกลต่อไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากซัมซุง ที่จะมาช่วยพัฒนาด้านการศึกษาและยกระดับการเรียนการสอนสู่ยุคดิจิตอล" นายมณฑล กล่าวทิ้งท้าย

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทานอาหารบรรยากาศดี ต้องที่นี่ “ระเบียง ณ แม่ริม”



ได้มีโอกาสร่วมงาน เปิดตัวห้องอาหาร “ระเบียง ณ แม่ริม” ตั้งอยู่ที่ จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ อำเภอแม่ริม แน่นอนชาวเชียงใหม่ ต่างรู้จัก จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ เป็นอย่างดี เพราะเมื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ต่างๆของอำเภอแม่ริม โดยเส้นทาง แม่ริม - สะเมิง จะพบว่าหลายคนจะสังเกตุเห็นตึกสูงด้านขวามือ ตั้งเด่นเป็นสง่าเห็นได้ชัดเจนที่นั่นเองคือ จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ โดยพื้นที่ด้านหน้า เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร “ระเบียง ณ แม่ริม” ก้าวแรกที่เราเข้ามาถึงก็ได้พบกับตัวห้องอาหารที่สวยงาม เพดานสูงโปร่ง ที่เน้นไปด้วยความโล่ง โดยผสมผสานความลงตัวด้วยการตกแต่งสไตล์ล้านนาคันทรี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจุดสะดุดสายตาของเรานั้นคือระเบียงด้านนอก ที่ทุกท่านจะได้เห็นวิวมุมสูงของ อำเภอแม่ริม จุดนี้ทำให้ความรู้สึกของเรารับรู้ได้ถึงความสบายตัวของการได้มาเยือน การได้ทอดกายนั่งอยู่ที่ริมระเบียงและมองออกไปทำให้เหมือนรู้สึกได้ปลดปล่อยความเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานของขีวิตที่อยู่ในเมืองใหญ่ ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ถูกต้องแล้วแหละที่ท่านผู้บริหารได้ตั้งชื่อห้องอาหารแห่งนี้ว่า “ระเบียง ณ แม่ริม” 

เราได้พบกับ คุณล้วนชาย  ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีรังกรุ๊ป จำกัด ท่านได้มาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของจีรัง เฮลท์ วิลเลจ พร้อมทั้งเรื่องราวมากมายของ “ระเบียง ณ แม่ริม” ท่านบอกว่าไอเดียด้านการตกแต่ง ไอเดียของอาหารเกิดจากผู้ใหญ่หลายท่าน เพื่อน พี่น้อง ร่วมกันรังสรรค์มันขึ้นมา อาหารประเภทนี้ต้องรสชาดแบบนี้ ตรงนี้ต้องเป็นแบบนี้ ล้วนแต่ได้รับคำแนะนำดีๆจากทุกท่านด้วยความหวังดี ในส่วนทางด้านเชฟนั้น คุณล้วนชาย ว่องวานิช ได้ตัวเชฟคนเก่ง อย่าง เชฟ มอส วีรวัฒน์  ก้อนคำ เชฟอาหารยุโรป ผู้คร่ำหวอดในวงการเชฟของเมืองเชียงใหม่ ที่ไปสร้างชื่อในระดับเวทีระดับโลกมาแล้ว นอกจากนั้นยังมีเชฟธงชัย ชัยวุฒิ เชฟอาหารไทยที่มากประสบการณ์ ทั้ง 2 ท่านจะมาปรุงรสอาหารให้ทุกท่านได้ลิ้มลองความอร่อยกันแบบสุดประทับใจเลยทีเดียว โดยเชฟได้นำเมนูเด็ดหลากหลายเมนูมาให้เราได้ลิ้มลอง อาทิ “Flinstone Rib ซี่โครงไดโนเสาร์” ด้วยการคัดสรรซี่โครงหมูที่มีเนื้อติดมันเล็กน้อยมาตุ๋นในซอส บาร์บีคิว ก่อนนำไปอบให้ซอสได้ซึมเข้าลงไปในเนื้อโดยเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงจำพวกผัดดองและผักสด ออแกนิค ที่ปลูกเองจากแปลงผักด้านหน้า อีกทั้งยังมีเมนูสุดพิเศษ กับเบอเกอร์ไ้ส้อั่ว ที่ผสมผสานความเป็นล้านนากับยุโรปได้อย่างลงตัว เสิร์ฟพร้อมกับผักไฮโดรโพนิก และผักออกแกนิค และที่สำคัญที่นี่ยังมี ผัดสลัดคุณภาพดี และ น้ำสลัดที่ปรุงตามธาตุ โดยในเมนูของร้านยังมีข้อมูลบอกว่าคนที่เกิดเดือนไหน อยู่ในธาตุอะไรให้คุณได้เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับธาตุชีวิตอีกด้วย 

ในส่วนของเชฟธงชัย ยังได้นำเสนอเมนูความอร่อย “Volcano Chicken หรือ ไก่ภูเขาไฟ” ในแบบสไตล์เวสเทิร์น นอกจากนั้นยังได้นำเสนอเมนูน้ำพริกปลาทูตำ ที่มาพร้อมผักสด ผักลวก คู่เคียงความอร่อย โดยได้เลือกปลาทูเนื้อแน่นและความเผ็ดของพริกที่พอดีโขลกเข้าด้วยกัน รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยนักแล นอกจากนั้นที่นี่ยังมีเครื่องดื่ม ทั้งค็อกเทล และ ม็อกเทล ให้ได้ลิ้มลองหลายครั้งที่คุณคิดถึงค็อกเทลแน่นอนส่วนผสมมักจะมีแอลกอฮอลล์ให้ได้ดื่มกัน แต่ เมื่อคุณได้ลิ้มลอง ม็อกเทล เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแล้วจะทำให้คุณสดชื่นและผ่อนคลายกับเครื่องดื่มเย็นๆอีกด้วย


การที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศดีๆพร้อมกับรับประทานอาหารดีๆช่างทำให้ชีวิตเราดีไปด้วย นี่ก็ตรงตามความต้องการของผู้บริหาร ที่อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี ด้วยชีวีที่จีรัง 






ชื่อ : ห้องอาหาร “ระเบียง ณ แม่ริม” 
ที่ตั้ง : จีรัง เฮลธ์  วิลเลจ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โทร : 053-861-511-3
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 15:00 . สำหรับมื้อเที่ยง และ 16:00 – 22:00 . สำหรับมื้อเย็น




วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

งานวันทรัพทย์สินทางปัญญาโลก



สถานกงศุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐ (USPTO) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพฯ พร้อมด้วย วิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย เชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์ และ ห้างเมญ่า จัดงาน วันทรัพทย์สินทางปัญญาโลก ขึ้น สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ และสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา ทำงานรณรงค์ต่อเนื่องร่วมกันมากว่า 7 ปีติดต่อกัน เพื่อเฉลิมฉลองวันทรัพย์สินทางปัญญาโลก พร้อมกันทั่วโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 26 เมษายนของทุกปี โดยในปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Digital Creativity: Culture Reimagined” เป็นการยกย่องบุคคลเบื้องหลังผลงานภาพยนตร์สร้างสรรค์ อันเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายในงานได้รับเกียรติจาก กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ มิสเตอร์ ไมเคิล  ฮีธ เป็นประธานในการเปิดงาน ภายในงานยังได้จัดให้มีนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานที่นักศึกษาได้สร้างขึ้นมากมาย พร้อมทั้งมีการแสดงดนตรี โดยศิลปินร็อคอินดี้ของชาวเชียงใหม่ วง “มัชฌิมา” และ ศิลปินชื่อดังที่สร้างผลงานไปทั่วโลกกับวง Rasmee Wayrana (World Music:Isan and Soul) พร้อมทั้งเสวนา  “ทรัพย์สินทางปัญญามีผลกระทบกับท่านอย่างไร  ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้า เมญ่า เชียงใหม่ ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งเซนเตอร์





A NEW PERSPECTIVE AT LE MÉRIDIEN CHIANGMAI


โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ จัดงานจิตกรรมสุดพิเศษที่สร้างสรรค์โดยศิลปินพิชากร ชูเขียว หรือ “ตัวเป็นน็อต” กับงานศิลปะที่สะท้อนประสบการณ์ ของตัวศิลปิน ผ่านฝีแปรงที่จะมากระตุกความคิด ความรู้สึก และทัศนคติของผู้ชม โดยเนรมิตพื้นที่ล็อบบี้ด้านล่างของโรงแรมให้เป็นแกลลอรี่แสดงภาพ พร้อมกับ การบรรเลงเพลงแจ๊ส สนุกๆของศิลปินมากฝีมือ พร้อมทั้งชื่นชมผลงานสุดสวยของศิลปินคนเก่ง ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรติมากมายเข้าร่วมรับชม บรรยากาศสนุกสนานมากไปด้วยเหล่าเซเล็ป เมื่อวันวานที่ผ่านมา ณ โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

“มันตราอาหารล้านนา”





สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมเทศกาล “มันตราอาหารล้านนา” ต้อนรับป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นประธาน ณ ฟู๊ดคอร์ท เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี


ดร.ศราวุฒิ  ศรีศกุน  ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจัดกิจกรรมเทศกาล “มันตราอาหารล้านนา” ต้อนรับป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เพื่อร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ไว้ โดยรูปแบบกิจกรรมยังคงเน้นความเป็นพื้นเมืองตามประเพณีของชาวเหนือ และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารล้านนาให้เป็นที่รู้จัก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาลิ้มลองรสชาติอาหารล้านนา โดยการพัฒนาสูตรอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือแต่ยังคงอัตลักษณ์ความโดดเด่นแบบล้านนา  
เทศกาล “มันตราอาหารล้านนา” ต้อนรับป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 – 17 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.00 น. ซึ่งบรรยากาศภายในเทศกาล “มันตราอาหารล้านนา” ต้อนรับป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ที่ไนท์ซาฟารียังอบอวลไปด้วยความเป็นล้านนา ไม่ว่าจะเป็น การสรงน้ำพระ, การแต่งกายพื้นเมือง, เจดีย์ทรายจำลองที่ตกแต่งด้วยตุง 12 ราศี รวมไปถึงอาหารล้านนาจากผู้เข้าร่วมการประกวดการทำอาหาร “จุดหมายปลาย ทางแห่งมันตราอาหารล้านนา”          ที่ผ่านมา ร่วมออกบูธจำหน่ายอาหาร จำนวนมากกว่า 10 ร้าน เช่น ไส้อั่ว, ลาบหมูคั่ว, น้ำพริก, ห่อแอ๊ป, ข้าวซอย, แกงฮังเล และซุปต่างๆ อีกทั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังมีกิจกรรมอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิด อาทิ การนั่งรถชมสัตว์ Day/Night Safari, การแสดงโชว์จากนักล่าแห่งรัตติกาล Night Predators, ชมน้ำพุดนตรีที่ตระการตา ต้อนรับเทศกาลวันสงกรานต์นี้